โดยปกติแล้วคนส่วนใหญ่จะมีความชื่นชอบในความเงา ซึ่งจะเห็นได้ในเกือบทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่อุตสาหกรรมยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงของเล่นเด็ก ไม่ว่าอุตสาหกรรมจะเป็นเช่นไร ความเงางามมักจะเกี่ยวข้องกับความหรูหราและความมั่งคั่ง 

        โดยคำจำกัดความของ “ความเงา”  คือ เป็นคุณสมบัติทางแสงที่บ่งบอกว่าพื้นผิวสะท้อนแสงในทิศทางตรงข้าม (เหมือนกระจก) ได้ดีเพียงใด—หรือว่าวัตถุปรากฏเป็นมันเงาหรือแวววาวเพียงใด ในขณะที่หลายอุตสาหกรรมต้องการผิวเคลือบมันมากกว่า แต่บางอุตสาหกรรมก็ต้องการพื้นผิวด้านมากกว่า

ทำไมต้องวัดความเงา?

        การวัดความเงาขณะผลิตผลิตภัณฑ์สามารถปรับปรุงกระบวนการผลิตได้โดยการระบุปัญหาของกระบวนการผลิต เพิ่มความสม่ำเสมอ ลดของเสีย และปรับปรุงคุณภาพ

        แม้ว่าตามนุษย์จะตรวจจับความเงาได้ เช่น การเปรียบเทียบพื้นผิวด้านบนรถทหารกับรถสปอร์ตสีแดงมันวาว แต่ความแตกต่างของความเงาเพียงเล็กน้อยอาจไม่สามารถแยกได้ด้วยตาเปล่า แต่ก็ยังส่งผลกระทบอย่างมากต่อกระบวนการผลิต หรือคุณภาพของสี

การสะท้อนแสงคืออะไร?

        เมื่อแสงตกกระทบพื้นผิว แสงบางส่วนถูกดูดกลืน และบางส่วนสะท้อนกลับ หลักการสะท้อนมักเกี่ยวข้องกับพื้นผิวของวัตถุ บนพื้นผิวที่เรียบและขัดมันเหมือนกระจก แสงจะสะท้อนในมุมตรงข้ามกับมุมที่แสงตกกระทบ แต่บนพื้นผิวที่ขรุขระ แสงจะสะท้อนทุกมุมเปอร์เซ็นต์ (%) การสะท้อนกลับคืออะไร?

        การสะท้อนคือการวัดปริมาณแสงที่ตรวจพบเทียบกับปริมาณแสงที่ส่ง โดยจะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์  PosiTector GLS สามารถแสดงผลได้ทั้งใน GU (gloss unit) และค่าการสะท้อนแสงเป็นเปอร์เซ็นต์

ค่าความเงาคืออะไร? หน่วยความเงาคืออะไร?

        ตามมาตรฐาน ISO 2813 ค่าความเงาคืออัตราส่วนของการสะท้อนแสงของชิ้นงานทดสอบต่อการสะท้อนแสงของพื้นผิวกระจกสีดำขัดมันมาตรฐาน “ด้วยดัชนีการหักเหของแสง 1,567 ที่ความยาวคลื่น 587.6 นาโนเมตรในทิศทางของสเปกตรัม” คูณด้วย 100 มัน แสดงในรูปของหน่วยความเงา GU (Gloss Unit)

ดัชนีความฝ้ามัว (Haze) คืออะไร?

        Haze เป็นลักษณะที่ปรากฏของมัวในพื้นผิวสะท้อนแสงที่เกิดจากความไม่สมบูรณ์ของพื้นผิว ดัชนีความมัวคำนวณและกำหนดโดย ASTM D4039 เนื่องจากความแตกต่างระหว่างค่าความเงาที่วัดได้ที่ 60° ถึง 20° PosiTector GLS 20/60 และ 20/60/85 สามารถคำนวณหมอกมัวได้เมื่อเลือกภายในเมนูตั้งค่า

ความเงาวัดได้อย่างไร?

        เครื่องวัดความเงาแบบดิจิตอล เช่น DeFelsko PosiTector GLS Gloss Meter จะวัดพื้นผิวโดยใช้แหล่งกำเนิดแสงและเซ็นเซอร์แสงที่มุมตรงข้ามกัน การสะท้อนแสงถูกวัดโดยการเปรียบเทียบปริมาณพลังงานแสงที่ปล่อยออกมาจากแหล่งกำเนิดกับปริมาณพลังงานที่อ่านได้จากเซนเซอร์รับแสง ความเงาจะถูกคำนวณโดยอัตโนมัติโดยใช้ตารางค้นหา

         เครื่องวัดความเงา PosiTector GLS มีแผ่นมาตรฐานอ้างอิงอยู่ภายในฐานของตัวเครื่อง เมื่อเปิดเครื่องหรือเมื่อเลือกจากเมนู เครื่องมือจะปรับเทียบตัวเองโดยอัตโนมัติโดยใช้ค่าหน่วยความเงาของแผ่นมาตรฐาน

การเลือกมุมที่ดีที่สุดสำหรับการวัดความเงา

        พื้นผิวส่วนใหญ่ เมื่อทำมุมกับแสงเพิ่มขึ้น ค่าการสะท้อนแสงและความเงาก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน ปรากฏการณ์นี้สามารถใช้เพื่อให้ความละเอียดในการวัดสูงขึ้นบนผิวมันเงาและผิวด้าน

ในการกำหนดมุมการวัดความเงาที่ถูกต้อง ขั้นแรกให้วัดความเงาที่มุม 60°:

                หากผลลัพธ์อยู่ระหว่าง 10–70 GU วัตถุที่เป็นปัญหาจะถือเป็นกึ่งเงา และมุมการวัด 60° จะเหมาะสม

                หากผลลัพธ์มีค่ามากกว่า 70 GU ถือว่าพื้นผิวมีความมันวาวสูงและควรวัดด้วยมุม 20°

                หากผลลัพธ์มีค่าน้อยกว่า 10 GU ถือว่าพื้นผิวด้านและควรวัดด้วยมุม 85°