เครื่องวัดความหยาบ Surface Profile Gauge

ทำไมการวัดค่าความหยาบพื้นผิว (Surface Profile) จึงมีความสำคัญต่อการทำสี ?

เหล็กมักจะถูกทำความสะอาดหรือทำให้หยาบก่อนทาสี ความหยาบพื้นผิวหรือความสูงจากจุดยอดถึงต่ำสุดของพื้นผิวของ “โปรไฟล์พื้นผิว” ที่เป็นปัจจัยสำคัญและเป็นตัวกำหนดประสิทธิภาพของสีที่ใช้

หากความสูงของโปรไฟล์พื้นผิวที่ต่ำเกินไปอาจส่งผลให้ลดความแข็งแรงของการยึดเกาะของสีบนพื้นผิว หรือสูงเกินไปอาจทำให้จุดยอดของโปรไฟล์ไม่ได้ถูกสีเคลือบเพียงพอทำให้มีโอกาสเกิดสนิมก่อนจุดอื่น ๆ และจำเป้นต้องใช้สีเพิ่มขึ้น เพื่อทำให้สีกลบโปรไฟล์

การวิจัยที่เกิดขึ้นใหม่ในช่วง 15 ปีที่ผ่านมาแสดงให้เห็นว่าความสูงของโปรไฟล์พื้นผิวไม่ใช่ตัวแปรสำคัญเพียงอย่างเดียว ความหนาแน่นของโปรไฟล์ (เรียกอีกอย่างว่าจำนวนสพีค) จำนวนพีคในโปรไฟล์พื้นผิวต่อหน่วยพื้นที่ จะเป็นอีกปัจจัยในการกำหนดความแข็งแรงของการยึดเกาะของสีและความทนทานต่อการกัดกร่อน อันที่จริง จากการศึกษายังพบอีกว่า ความหนาแน่นอาจเป็นปัจจับที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพของสีได้ดีกว่าความสูงของโปรไฟล์พื้นผิวด้วย

ในอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวกับการทำสีเหล็ก เช่น การหาวัดความสูงของโปรไฟล์ของพื้นผิวที่ป้องกันการลื่นไถล หรือเพื่อประเมินโปรไฟล์พื้นผิวคอนกรีต (CSP) ก่อนการเคลือบผิวบนคอนกรีต ได้อีกด้วย

ใช้ไมโครมิเตอร์เข็ม (Depth pin Gauge) แบบดิจิทัลที่ติดตั้งอยู่ที่หัวโพรบ เพื่อวัดและบันทึกความหยาบของพื้นผิวจากจุดยอดถึงจุดที่ต่ำที่สุด (peak to valley) 

สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

 ASTMD4417-B, ASTM D8271 (SPG TS เท่านั้น), AS 3894.5-C (พร้อมปลายเสริม 30°), USNavy NSI 009-32, NAVSEA 009-32 ของกองทัพเรือ, NAVSEA PPI 63101-000 ของกองทัพเรือสหรัฐฯ, SSPC PA 17 , SANS 5772 และอื่นๆ

ไมโครมิเตอร์สปริงแบบดิจิตอล สามารถวัดและบันทึกค่าความหยาบโปรไฟล์พื้นผิวโดยใช้เทปจำลอง Testex Press-O-Film เพื่อวัดค่าความหยาบพื้นผิวจากจุดยอดถึงจุดต่ำสุด (peak to valley) ได้อย่างแม่นยำสำหรับเหล็กที่ผ่านการพ่นทราย

สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

ASTM D4417, ISO 8503-5, NACE SP0287, SSPC-PA 17, SSPC-SP5, SP6, SP10, SP11-87T และอื่นๆ

Testex Micrometer Dial Thickness Gages ใช้วัดความหยาบของพื้นผิวที่ทำความสะอาดด้วยการพ่นทราย เป็นเครื่องที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับใช้กับ Testex Tape โดยเฉพาะ โดยมี แรงปิด ขนาด จุดสัมผัส และความขนาน ที่เหมาะสมสำหรับการวัดเทปจำลองที่ถูกต้องแม่นยำที่สุด การรับประกัน 1 ปี

สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

ASME B46, ASTM D4417, ISO 8503-5, NACE SP287, SSPC-PA 17, SP5, SP6, SP10, SP11-87T  และอื่นๆ

เครื่องบันทึกภาพเทปจำลองแบบดิจิทัล สามารถวัดและบันทึกค่าความหยาบโปรไฟล์พื้นผิวได้ถึง 14 รูปแบบทั้ง 2D/3D โดยใช้ร่วมกับเทปจำลอง Testex Press-O-Film สามารถดาวน์โหลดไฟล์ .SDF ที่มีความละเอียดสูงเพื่อการวิเคราะห์เพิ่มเติมได้ (รุ่น Advance เท่านั้น)

สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

ASME B46, ASTM D4417, ISO 8503-5, NACE SP0287, SSPC-PA 17, SSPC-SP5, SP6, SP10, SP11-87T และอื่นๆ

Testex Replica Tape ใช้สำหรับวัดโปรไฟล์พื้นผิวโดยการสร้างแบบจำลองของพื้นผิว ซึ่งสามารถวัดได้โดยใช้ไมโครมิเตอร์ ด้วยเทคนิคง่ายๆ: วางบนพื้นผิว กด/ขัดมันลงบนพื้นผิว เอาออก และวัด เทคนิคที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความแม่นยำและสามารถทำซ้ำได้ซึ่งผ่านการตรวจสอบจากการศึกษาอิสระจำนวนมาก

  • วัดโดยใช้ไมโครมิเตอร์ที่มีความแม่นยำแบบอะนาล็อกหรือเครื่องอ่านเทปจำลองแบบอิเล็กทรอนิกส์ PosiTector RTR
  • ใช้เวลาน้อยกว่า 30 วินาทีต่อการทดสอบ
  • วิธีการวัดโปรไฟล์พื้นผิวที่ได้รับการรับรองโดย ISO, ASTM และ AMPP

สอดคล้องกับมาตรฐานสากล

ASME B46, ASTM D4417, ISO 8503-5, NACE SP0287, SSPC-PA 17, SSPC-SP5, SP6, SP10, SP11-87T และอื่นๆ

การใช้งานเครื่องวัดค่าความหยาบ Positector RTR กับ Testex Tape Press-O-Film

1. เตรียมการวัด

เตรียมพื้นผิวที่จะทดสอบและ PosiTector RTR H ก่อนทำการทดสอบ

เตรียมพื้นผิว:

ใช้ putty ทำความสะอาดขจัดฝุ่น เศษผง หรือทรายที่หลงเหลือออกจากบริเวณที่ต้องการวัด โดยใช้นิ้วกด Putty ลงบนพื้นผิวให้แน่นแล้วดึงออก

การเตรียม PosiTector RTR H:

  • ทำความสะอาดฐานวัดโดยใช้การ์ดทำความสะอาดที่ให้มา รูดการ์ดผ่านฐานในขณะที่กดทดสอบสักสองสามครั้งเพื่อกำจัดฝุ่น
  • ตรวจสอบความถูกต้องเครื่องด้วยแผ่นชิมที่ให้มา
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกชนิดของ Press O Film ถูกต้องที่มุมซ้ายบนของ LCD

2. ลอกลายพื้นผิว

แผ่น Testex Tape Press-O-Film ประกอบด้วยชั้นของโฟมที่ติดอยู่กับฟิล์มพลาสติกโพลีเอสเตอร์ เมื่อกดลงบนพื้นผิวเหล็กที่หยาบ ชั้นของโฟมบนแผ่นจะถูกจำลองและลอกลายพื้นผิวหยาบ

เลือก Testex Tape Press-O-Film ที่เหมาะสมตามความหยาบโปรไฟล์ที่ต้องการวัด

ดึงเทปด้านหลังของ Testex Tape Press-O-Film ออก แล้วนำไปแปะลงบนพื้นผิวที่ผ่านการทำความสะอาดแล้ว

กด Testex Tape Press-O-Film โดยใช้ปลายมนของก้านสแตนเลสที่ให้มา ใช้แรงกดและถูเป็นวงกลม เป็นเวลา 30-60 วินาทีเพื่ออัดชั้นโฟมเข้าไปสู่ความหยาบ โดยทั่วไป การใช้กดแรงมากเกินไปจะให้ผลที่ดีกว่าการให้แรงกดที่น้อยเกินไป

เมื่อเสร็จแล้ว ให้แกะ Testex Tape Press-O-Film ออกจากพื้นผิว

3. วัดผล

อ่านค่า Testex Tape Press-O-Film ในฐานของเครื่อง Micrometer หรือ PosiTector RTR H จะเป็นการวัดความหยาบเฉลี่ยสูงสุดของจุดยอดถึงจุดต่ำสุดของโปรไฟล์ความหยาบของพื้นผิว

  1. ใส่ Testex Tape Press-O-Film เข้าไปในช่องวัด และจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยให้บริเวณแผ่นลอกลายอยู่ตรงกลางภายในฐานของโพรบ และให้ด้านที่มีกาว (เหนียว) คว่ำลง
  2. เมื่อแผ่นได้ตำแหน่งแล้ว ให้กดปุ่มทดสอบบนโพรบทั้งสองปุ่มพร้อมกันให้แน่นพร้อมกับกดค้างไว้จนกว่า PosiTector RTR H จะส่งเสียงบี๊บแลผลการวัดค่าจะแสดงขึ้นบนจอเครื่อง

นำค่าว่าอ่านได้จาก Micrometer ลบความหนาของแผ่นพลาสติกโพลีเอสเตอร์ (50 ไมครอน) ออก จะได้ค่าความหยาบพื้นผิว แต่เครื่อง Positector RTRH จะทำการลบค่านี้โดยอัตโนมัติ

Linearized Peak Height

แผ่น Testex Tape Press-O-Film ที่ใช้อยู่ทั่วไปมี 2 เกรดคือ “Coarse” และ “X-Coarse” ซึ่งทั้งสองแผ่นถูกออกแบบให้สามารถการวัดความหบายพื้นผิวในช่วง 20 ถึง 115 ไมครอน

แต่ด้วยลักษณะเฉพาะในการออกแบบของ Testex Tape Press-O-Film ที่วัดโดยไมโครมิเตอร์แบบสปริงทั่วไปนั้นจะให้ค่าที่แม่นยำที่สุดเมื่อค่าความหยาบที่ต้องการวัดอยู่ในช่วงตรงกลางของช่วงการวัดของแผ่นในแต่ละเกรดเท่านั้น และความแม่นยำจะลดลงเมื่อค่าการวัดใกล้ขอบเขตของช่วงการวัดของแต่ละเกรด นั่นเป็นเหตุผลที่มีความจำเป็นต้องใช้แผ่นเกรดอื่นอีก 2 เกรด คือ Coarse Minus (< 20 µm / 0.8 mils) และ X-Coarse Plus (> 115 µm / 4.5 mils) เพื่อช่วยปรับค่าการวัดในช่วงปลายด้านบนและด้านล่างของช่วงหลักให้มีค่าที่แม่นยำมากขึ้น

Testex Tape Press-O-Film แบบ Coarse และ X-Coarse จะมีช่วงการวัดที่คาบเกี่ยวกันที่ 38 – 64 μm (1.5 – 2.5 mils) หากทำการวัดด้วยไมโครมิเตอร์ทั่วไปต้องใช้ขั้นตอนที่ซับซ้อนและใช้เวลานาน โดยจำเป้นต้องใช้ค่าเฉลี่ยของค่าที่วัดโดยใช้เกรด Coarse และอีกหนึ่งค่าที่ใช้เกรด X-Coarse เพื่อให้ได้ความแม่นยำที่เหมาะสม

PosiTector RTR H วัดค่าต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำโดยการวัดความสูงจากจุดยอดถึงจุดต่ำสุด HL จากเทป Coarse หรือ X-Coarse ที่ได้รับการปรับค่าความแม่นยำให้เป็นเชิงเส้น โดยไม่จำเป็นต้องมีการทดสอบสองเกรดเหมือนไมโครมิเตอร์ทั่วไป และไม่จำเป็นต้องลบความหนาของแผ่นฟิล์มโพลีเอสเตอร์ 50.8 µm ออก โดยเครื่องจะลบออกให้โดยอัตโนมัติ ข้อดีคือ ทำให้การวัดแม่นยำมากขึ้น ลดโอกาสที่จะเกิดข้อผิดพลาด และลดจำนวนแผ่นที่ใช้ทดสอบเพื่อรับรองความถูกต้องแม่นยำ

PosiTector RTR H ยังสามารถแสดงค่าความสูง (H) ที่เทียบได้กับไมโครมิเตอร์สปริงแบบอะนาล็อกทั่วไป โดยจะแสดงหลังจากลบความหนาของฟิล์มโพลีเอสเตอร์ 50.8 µm แล้ว