
เครื่องวัดอากาศ Positector DPM
เครื่องวัดอากาศและความชื้นในอากาศ ได้แก่ อุณหภูมิอากาศ ความชื้นสัมพัทธ์ อุณหภูมิพื้นผิว อุณหภูมิจุดน้ำค้าง
สอดคล้องกับมารตฐาน
ISO 8502-4, BS 7079-B4, ASTM D3276, IMO PSPC, SSPC-PA7, US Navy NSI 009-32, and Navy NAVSEA 009-32
โปรดเลือกเครื่องและหัววัดที่ต้องการ
฿15,760.00 – ฿48,000.00
ขั้นตอนในการเลือกซื้อเครื่องวัดความชื้น อุณหภูมิเหล็ก Positector DPM
1. เลือกตัวเครื่อง Gauge Body

Standard
- หน่วยความจำ 1,000 การอ่านต่อหัววัด
- มีโหมดสถิติ และระบบเตือนเมื่อค่าสูงหรือต่ำกว่ากำหนด
- เชื่อมต่อ โอนถ่ายข้อมูลด้วยระบบ USB

Advance
- หน่วยความจำ 250,000 การอ่าน และ 1,000 ชุดการอ่าน
- มีโหมดสถิติ และระบบเตือนเมื่อค่าสูงหรือต่ำกว่ากำหนด
- สามารถแสดงค่า Wet Bulb temperature
- เชื่อมต่อ โอนถ่ายข้อมูลด้วยระบบ USB, Wifi และ Bluetooth

Smart Link
- สามารถเชื่อมต่อและแสดงผลผ่านโทรศัพท์มือถือ
- สามารถวิเคราะห์ผลผ่านมือถือได้ทันที
- เชื่อมต่อ โอนถ่ายข้อมูลด้วยระบบ Wifi และ Bluetooth
2. เลือกลักษณะหัววัดให้เหมาะสมสำหรับงาน
DPM

ค่าที่วัดได้
Surface Temperature
Air Temperature
%RH
Dew Point Temperature
Surface - Dew Point
Wet Bulb Temperature
DPM IR

ค่าที่วัดได้
Surface Temperature
Air Temperature
%RH
Dew Point Temperature
Surface - Dew Point
Wet Bulb Temperature
DPM S

ค่าที่วัดได้
Surface Temperature
Air Temperature
%RH
Dew Point Temperature
Surface - Dew Point
Wet Bulb Temperature
DPM A

ค่าที่วัดได้
Surface Temperature
Air Temperature
%RH
Dew Point Temperature
Surface - Dew Point
Wet Bulb Temperature
Wind Speed
DPM D
สำหรับงานท่อ

ค่าที่วัดได้
Air Temperature
%RH
Dew Point Temperature
Surface - Dew Point
Wet Bulb Temperature

ช่วงการวัดและความแม่นยำ

อุปกรณ์เสริม

หัววัด K-Type สำหรับพื้นที่เข้าถึงยาก

หัววัด K-Type สำหรับของเหลว

เกจวัดอุณหภูมิเหล็ก

Sling Hygrometer วัดอุณหภูมิอากาศ
บทความที่เกี่ยวข้องกับเครื่องวัดความชื้น อุณหภูมิพื้นผิว
เหตุใดจึงต้องวัดสความชื้น อุณหภูมิพื้นผิวก่อนการทำสีและสารเคลือบ?
สภาวะแวดล้อมโดยเฉพาะความชื้นและอุณหภูมิพื้นผิวที่เหมาะสมเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับกระบวนการเตรียมพื้นผิว การใช้งาน และการอบชุบ สีหรือสารเคลือบ เพื่อทำให้การทำงานสีมีประสิทธิภาพมากที่สุด ค่าที่ควรวัดและส่งผลกระทบต่องานทำสีมีอยู่หลัก ๆ 5 ค่าด้วยกัน
การเตรียมพื้นผิวและทำสีควรดำเนินการภายใต้สภาวะแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อช่วยป้องกันความล้มเหลว โดยค่าที่ความวัดก่อนและระหว่างกระบวนการทำสีดังนี้
1. อุณหภูมิอากาศ (Air Temperature)
2. อุณหภูมิพื้นผิว (Surface/Steel Temperature)
3. ความชื้นสัมพัทธ์ (Relative Humidity)
4. อุณหภูมิจุดน้ำค้าง (Dew Point Temperature)
5. ความแตกต่างระหว่างอุณหภูมิพื้นผิวและจุดน้ำค้าง (Surface temperature – Dew Point)
เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่าสีส่วนใหญ่จะไม่แห้งอย่างเหมาะสมที่อุณหภูมิต่ำและความชื้นสัมพัทธ์สูง (RH) เข้าใจน้อยคือผลกระทบของความชื้นบนพื้นผิวที่มีต่อชีวิตและประสิทธิภาพของวัสดุ ความชื้นจะเกิดขึ้นบนพื้นผิวเมื่อสัมผัสกับอากาศที่ร้อนและชื้นซึ่งเรียกว่าการควบแน่น ความชื้นที่เกิดขึ้นจะติดอยู่ระหว่างสีและพื้นผิว ซึ่งอาจส่งผลทำให้อายุการใช้งานของระบบสีที่ใช้เสื่อมหรือหลุดร่อนก่อนเวลาอันควร โดยสีส่วนใหญ่จะแนะนำให้ความชื้นสัมพัทธ์ควรต่ำกว่า 85%
แต่การควบแน่นของความชื้นบนพื้นผิวอาจสังเกตได้ยากด้วยตาเปล่า แทนที่จะตรวจจับความชื้นนี้ เครื่องมือจะถูกนำมาใช้เพื่อช่วยประเมินความเสี่ยงของการเกิดความชื้นต่อการทำสี โดยทำการทดสอบเพื่อคำนวณอุณหภูมิจุดน้ำค้าง ก่อน ระหว่าง และหลังกระบวนการทำสี และเปรียบเทียบอุณหภูมิจุดน้ำค้างกับอุณหภูมิพื้นผิวเพื่อให้แน่ใจว่าทั้งสองอยู่ห่างจากกันมากพอที่จะทำให้เกิดความชื้นบนพื้นผิวได้ โดยทั่วไปอุณหภูมิพื้นผิวควรมากกว่าอุณหภูมิจุดน้ำค้างอย่างน้อย 3 องศาเซลเซียส
การตรวจสอบค่าความชื้นหรือสภาพอากาศอื่นและความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับผลกระทบที่มีต่อคุณภาพและความสมบูรณ์ในระยะยาวของการทำสีมีความสำคัญต่อผู้รับเหมาและผู้ตรวจสอบทุกคน