ISO and Keane-Tator Surface Roughness Comparators

เครื่องมือเปรียบเทียบโปรไฟล์พื้นผิว เป็นเครื่องมือที่รวดเร็วในการประเมินความลึกของโปรไฟล์ของพื้นผิวที่ผ่านการพ่นทรายแล้วด้วยการมองและสัมผัสเปรียบเทียบกับแผ่นมาตรฐาน โดยใช้หรือไม่ใช้แว่นขยายส่อง แผ่นมาตรฐานประกอบด้วยโปรไฟล์เกรดอ้างอิง 4 หรือ 5 ช่องขึ้นอยู่กับรุ่น

ISO Surface Roughness Comparators

แผ่นความหยาบมาตรฐานตามมาตรฐาน ISO จะมี 4 ช่องของความหยาบมารฐาน เพื่อใช้ในการเปรียบเทียบกับพื้นผิวงานพ่นทราย และเพื่อประเมิณค่าความหยาบของพื้นผิวหลังพ่นทรายแล้ว

คุณสมบัติ

  • พกพาสะดวก รวดเร็ว และง่ายต่อการประเมิณพื้นผิวพ่นทราย
  • จะมี 4 เกรดของความหยาบมาตรฐานเพื่อใช้ในการเปรียบเทียบ
  • หน่วยเมตทริก

มีให้เลือก 2 แบบ

  • Grit – 25, 60, 100, 150 µm
  • Shot – 25, 40, 70, 100 µm

ตามมาตรฐาน : ISO 8503-1 และ ISO 8503-2

Keane-Tator Surface Roughness Comparators

แผ่นความหยาบมาตรฐานตามมาตรฐาน ASTM ขนาด 3 นิ้ว ประกอบด้วย 5 ความหยาบมาตรฐานเพื่อมองเปรียบเทียบกับพื้นผิวพ่นทราย ในการประเมิณค่าความหยาบของพื้นผิวหลังพ่นทรายแล้ว

คุณสมบัติ

  • พกพา สะดวก และรวดเร็วต่อการประเมิณค่าความหยาบพื้นผิวพ่นทราย
  • ประกอบด้วย 5 ช่องความหยาบมาตรฐาน
  • ทำจากนิเกลคุณภาพสูง ทำให้ไม่เสียหายง่าย
  • แว่นขยาย 5x เพื่อช่วยในการประเมิณให้ง่ายขึ้น
  • หน่วย Mils

มี 3 แบบให้เลือก ขึ้นกับวัสดุที่ใช้ในการพ่น

  • Grit – 1.5, 2, 3, 4.5, 5.5 mils
  • Sand – 0.5, 1, 2, 3, 4 mils
  • Shot – 2, 2.5, 3, 4, 5.5 mils

มาตรฐานสากล : ASTM D4417-A

วิธีใช้เครื่องเปรียบเทียบพื้นผิว Surface Roughness Comparators

หากมีจำเป็นต้องประเมินโปรไฟล์พื้นผิวของพื้นผิวโลหะที่ผ่านการพ่นทรายอย่างรวดเร็ว เครื่องเปรียบเทียบพื้นผิว (Surface Comparator) จะเป็นตัวเลือกที่ดี เนื่องจากพกพาได้ง่าย ใช้งานง่าย และอ่านค่าได้รวดเร็ว

พูดง่ายๆ ก็คือเป็นแผ่นเหล็กแบนซึ่งมีโปรไฟล์มาตรฐานอยู่บนแผ่น ซึ่งสร้างขึ้นบนโลหะที่ทนต่อการขัดถู และการกัดกร่อน
โดยการนำแผ่นเหล็กความหยามาตรฐานเหล่านี้ไปเปรียบเทียบกับพื้นผิวที่เพิ่งผ่านการพ่นทรายมา แผ่นเทียบจะมีรูตรงกลางเพื่อให้การเปรียบเทียบทำได้ง่ายขึ้น และจากนั้นผู้ตรวจสอบจะประเมิณเกรดของโปรไฟล์

เนื่องจากการทดสอบรวดเร็ว ความง่าย และไม่ต้องการอุปกรณ์เยอะ ทำให้วิธีนี้จึงมีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อคุณต้องการพ่นสีให้เร็วที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดสนิมแฟลช หรือเมื่อทำการวัดความหยาบในพื้นที่อันตรายที่ห้ามใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

มีเครื่องเปรียบเทียบความหยาบพื้นผิวหลายประเภทสำหรับใช้กับมาตรฐานที่แตกต่างกัน โดยทั้งหมดทำงานในลักษณะเดียวกัน เครื่องมือเปรียบเทียบจะมีโปรไฟล์อ้างอิงสี่ ห้า หรือหกโปรไฟล์ โดยค่าโปรไฟล์จะบันทึกเป็นไมครอน มิล หรือ “คลาส” ขึ้นอยู่กับโปรไฟล์ที่เลือก และขึ้นอยู่กับเครื่องมือเปรียบเทียบที่คุณใช้

ขั้นตอนการอ่าน ISO Comparator

ขั้นแรก เลือกประเภทของแผ่นเปรียบเทียบโปรไฟล์ให้เหมาะสมกับพื้นผิว โดยพื้นฐานแล้วมีสองประเภท ได้แก่

 – ประเภท G สำหรับประเมิณพื้นผิวที่ผ่านการพ่นด้วยเม็ดกริด GRIT

 – ประเภท S สำหรับประเมิณพื้นผิวที่ผ่านการพ่นด้วยเม็ดช็อด SHOT
ให้วางแผ่นความหยาบมาตรฐานลงบนพื้นผิว แล้วให้เปรียบเทียบพื้นผิวที่ต้องการประเมิณกับแต่ละส่วนของแผ่นเปรียบเทียบ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตาเปล่า หรือใช้แว่นขยาย ขนาด x5 เพื่อช่วยสามารถเปรียบเทียบได้อย่างง่ายมากขึ้น
หากการประเมินด้วยการมองแล้วไม่แน่ใจ ก็สามารถประเมินด้วยการการสัมผัสได้ แม้ว่ามาตรฐานบางมาตรฐานไม่ได้ระบุว่าการสัมผัสจะสามารถใช้เพื่อประเมินความหยาบพื้นผิวได้ แต่มาตรฐานบางตัวแนะนำให้ใช้หลังเล็บเพื่อช่วยในการประเมิณได้
เมื่อประเมินโปรไฟล์โดยเทียบกับแต่ละส่วนของแผ่นเปรียบเทียบแล้ว เราจะกำหนดเกรดได้ โดยเราจะไม่ได้เลือกส่วนโปรไฟล์ที่ใกล้เคียงที่สุด แต่มีการกำหนดดังต่อนี้:
หากโปรไฟล์มีความเรียบกว่าส่วนที่ 1 ซึ่งเป็นเกรดที่ละเอียดที่สุดในแผ่นเปรียบเทียบ เกรดนั้นคือ Finer than Fine

หากโปรไฟล์หยาบกว่าส่วนที่ 1 ขึ้นไป แต่ไม่หยาบถึงส่วนที่ 2 ก็ถือว่าเป็นเกรด Fine


หากโปรไฟล์หยาบกว่าส่วนที่ 2 ขึ้นไป แต่ไม่หยาบถึงส่วนที่ 3 แสดงว่าเป็นเกรด Medium


หากโปรไฟล์หยาบกว่าส่วนที่ 3 ขึ้นไป แต่ไม่หยาบกว่าส่วนที่ 4 แสดงว่าเป็นเกรด Course


และสุดท้าย หากพื้นผิวมีโปรไฟล์หยาบกว่าส่วนที่ 4 นั้นคือ Courser than course

ขั้นตอนการอ่าน Keane-Tator Comparator

ขั้นแรก เลือกประเภทของแผ่นเปรียบเทียบโปรไฟล์ให้เหมาะสมกับพื้นผิว โดยพื้นฐานแล้วมีสองประเภท ได้แก่

 – ประเภท GS สำหรับประเมิณพื้นผิวที่ผ่านการพ่นด้วยเม็ดกริด GRIT และ SLAG

 – ประเภท S สำหรับประเมิณพื้นผิวที่ผ่านการพ่นด้วยเม็ดทราย SAND

 – ประเภท SH สำหรับประเมิณพื้นผิวที่ผ่านการพ่นด้วยเม็ดช็อต SHOT


ให้วางแผ่นความหยาบมาตรฐานลงบนพื้นผิว แล้วให้เปรียบเทียบพื้นผิวที่ต้องการประเมิณกับแต่ละส่วนของแผ่นเปรียบเทียบ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยตาเปล่า หรือใช้แว่นขยาย ขนาด x5 เพื่อช่วยสามารถเปรียบเทียบได้อย่างง่ายมากขึ้น
หากการประเมินด้วยการมองแล้วไม่แน่ใจ ก็สามารถประเมินด้วยการการสัมผัสได้ แม้ว่ามาตรฐานบางมาตรฐานไม่ได้ระบุว่าการสัมผัสจะสามารถใช้เพื่อประเมินความหยาบพื้นผิวได้ แต่มาตรฐานบางตัวแนะนำให้ใช้หลังเล็บเพื่อช่วยในการประเมิณได้
เมื่อประเมินโปรไฟล์โดยเทียบกับแต่ละส่วนของแผ่นเปรียบเทียบแล้ว เราจะกำหนดเกรดได้ โดยเราจะเลือกส่วนโปรไฟล์ที่ใกล้เคียงกับพื้นผิวมากที่สุดมารายงานเป็นเกรดของพื้นผิว เช่น

    – พื้นผิวผ่านการพ่นทรายมาด้วยการใช้เม็ด GRIT แล้วเมื่อลองเปรียบเทียบกับแผ่นความหยาบมาตรฐาน ใกล้เคียงกับ 3 mils มากที่สุด เราจะรายงานความหยาบพื้นผิวนี้ว่าเกรด 3 mils GS